วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 6



                                  น้ําตกไนแองการ่า




น้ำตกไนแอการา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งประกอบกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไนแอการาทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา น้ำตกไนแอการาประกอบด้วยน้ำตกสามแห่งที่แยกออกจากกัน คือ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls บางครั้งก็เรียก น้ำตกแคนาดา) สูง 158 ฟุต, น้ำตกอเมริกาสูง 167 ฟุต, และน้ำตกขนาดเล็กกว่าที่อยู่ติดกัน คือน้ำตก Bridal Veil. แม้น้ำตกไนแอการาจะไม่สูงอย่างโดดเด่น แต่ก็กว้างมาก
น้ำตกไนแองการามีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศมานานกว่าศตวรรษ
แม่น้ำไนแอการาไหลมาจากทะเลสาบอีรีไหลผ่านน้ำตกไนแอการาลงสู่ทะเลสาบออนตาริโอ เมืองสองฝั่งของน้ำตกในสองประเทศนั้นเป็นเมืองแฝด โดยในฝั่งแคนาดาคือ ไนแอการาฟอลส์ ออนตาริโอ ส่วนในฝั่งสหรัฐอเมริกาคือ ไนแอการาฟอลส์ มลรัฐนิวยอร์ก


วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 5


กิจกรรมที่ 5


ชื่อ นางนุชนารถ ลับโกษา เกิดวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2500
1.ประวัติการศึกษา
1. การศึกษาชั้นประถมปีที่ 1 - 4 จากโรงเรียนบ้านหนองจอก ตำบลคาละแมะ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
2. การศึกชั้นประถมปีที่ 5 – 7 จากโรงเรียนบ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
3. การศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 จากโรงเรียนศีขรภูมิพิสัย ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
4. การศึกษาระดับ ปวช. จากโรงเรียนเสาวภาผ่องศรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2521
5. การศึกระดับอนุปริญญา เอกออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม วิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พ.ศ. 2539
6. ระดับปริญญาตรี เอกการประศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พ.ศ. 2550
2.ประวัติการทำงาน
เริ่มรับราชการครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ในตำแหน่ง ครู 1 โรงเรียนบ้านผางอุดมสมบูรณ์วิทยา ตำบลขามเดื่อ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ และย้ายมาที่โรงเรียนบ้านคาละแมะ ตำบลคาละแมะ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 1 สิงหาคม 2527ในตำแหน่ง ครู 1 ระดับ 2 และในปัจจุบันตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านคาละแมะ ตำบลคาละ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
3.ผลงานดีเด่น
เป็นครูดีเด่นและครูแกนนำระดับอำเภอ แข่งความเลิศระดับ CEO ศีขรภูมิ 3 การท่องบทอาขยานนักเรียนช่วงชั้นที่ 1ได้ชนะเลิศอันดับ 1
4.นักเรียนประยุกต์สิ่งที่ดีมาใช้ในการพัฒนาตนเองอย่างไร ?
    การเป็นครูที่ดีนั้นต้องรู้จักการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา แสวงหาความรู้ตลอดเวลา  และต้องดุแลเอาใจใส่นักเรียนให้ทั่วถึงรู้ข้อบกพร่องของนักเรียนแล้วนำมาพัฒนานักเรียนให้เก่งขึ้นได้

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 4


กิจกรรมที่ 4
1.            แนวคิดหลักการทำงานเป็นทีมเป็นอย่างไร ?
        การทำงานเป็นทีมนั้น  คือการรวมกลุ่มตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อทำหน้าที่ร่วมกันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เดียวกันและต้องมีความร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทีมที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   การทำงานเป็นทีมนั้นต้องเข้าใจเป้าหมายอย่างชัดเจน   ร่วมมือกันคิดและแก้ไขปัญหาได้ทุกสถานการณ์   สมาชิกทุกคนต้องรู้จักการเสียสละ วางใจต่อกัน ยอมรับฟังเหตุผลและข้อเสนอแนะของทุกคนในทีมใช้ความขัดแย้งในหาเหตุผลเพื่อนำสู่จุดมุ่งหมายที่สมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม   และที่สำคัญในกลุ่มต้องมีการประสานงานที่ดีและมีระบบ
ขั้นตอนการทำงานเป็นทีม
 -วิเคราะห์งาน
 -กำหนดเป้าหมายร่วมกัน
 -วางแผนการทำงาน
 -กำหนดกิจกรรม
 -แบ่งงานให้สมาชิกในทีม
 -ปฏิบัติจริงตามแผน
 -ติดตามผลและนิเทศงาน
 - ประเมินงานขั้นสุดท้าย


2.นักศึกษาจะมีวิธีการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพอย่างไร   ยกตัวอย่างประกอบ  ?
           การทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพนั้นต้องเรียนรู้นิสัยและลักษณะทางด้านต่างๆ ของผุ้ร่วมงาน อาทิ ด้านอารมณ์ ร่างกาย จิตใจ ความรู้สึก บุคลิกภาพ เป็นต้น  การทำงานเป็นทีมนั้นทุกคนต้องสามารถที่จะรับฟังความคิดเห็นของผุ้อื่น และต้องยอมรับในข้อบกพร่องของตนเองให้ได้   ที่สำคัญคือ ต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจ  ความคิด   ความเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อส่วนรวมอีกด้วย   การทำงานเป็นทีมนั้นรู้จักการวางแผน  กระบวนการ การจัดระบบเพื่อให้งานนั้นออกมามีประสิทธิภาพ
                       ตัวอย่างการทำงานกลุ่มนั้น  สมาชิกในกลุ่มต้องมีความเคารพซึ่งกันและกัน   มีการร่วมกันเสนอความคิดเห็น อาจจะมีข้อโต้แย้งกันบ้างแต่ต้องอยู่ภายใต้เหตุและผลไม่ควรใช้อารมณ์เป็นตัวกำหนด     การทำงานที่ดีนั้นต้องเริ่มจากการคิดวิเคราะห์ว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร ทำเพื่ออะไร    จากนั้นก็เริ่มวางแผนงาน กำหนดงาน ค้นคว้าหาข้อมูล ลงมือปฏิบัติจริง จากนั้นรวบรวมข้อมูลและนำมาประมวลผล   การทำงานทุกขั้นตอนนั้นต้องทำอย่างมีระบบและชิ้นงานจะออกมาดีมีประสิทธิภาพ..
   

กิจกรรมที่ 3


กิจกรรมที่ 3
1.การจัดการเรียนการสอน จัดชั้นเรียน เตรียมการสอนในยุคศตวรรษที่  21   กับยุคก่อนศตวรรษที่ 21 เปรียบเทียบกันแตกต่างกันอย่างไร ?
                การเรียนรู้ยุคก่อนศตวรรษที่ 21 นั้นระบบการเรียนรู้จะเกิดขึ้นในโรงเรียนเท่านั้น การถ่ายทอดความรู้ก็จะมีผู้เชียวชาญหรือผู้มีความรู้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ และมนุษย์ยังไม่รู้จักการเรียนรู้ด้วยตนเอง   ยังต้องเรียนรู้ผ่านการกำหนดตามสูตรที่โรงเรียนซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เป็นหลักในการหาความรู้     และจะเน้นการเรียนการสอนที่เน้นครูผู้สอนเป็นหลัก   เน้นการสอนแบบบรรยาย การอ่านเฉพาะตำราเรียนเท่านั้น
            การเรียนรู้ในยุคศตวรรษที่  21   นั้นได้มีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอย่างรวดเร็วขึ้น    การเรียนรู้ในยุคนี้จะถือว่าการเรียนรู้คือชีวิต   เพราะมนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาต้องได้รับเรียนรู้   และการเรียนรู้นั้นทุกคนสามรถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลาและสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต   การเรียนรู้ในยุคศตวรรษที่ 21 นั้นจะเน้นผู้เรียนเป็นหลัก จะจัดการเรียนการสอนตามความต้องการของผุ้เรียนทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบการสอน  เพราะผู้เรียนสามารถจะตัดสินใจได้ว่าจะเรียนอะไร  เรียนอย่างไร  ดังนั้นสถานศึกษาจึงต้องมีหลักสูตรการเรียนที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการของนักเรียน..
  … ..  ความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้ในยุคก่อน-หลังศตวรรษ 21   คือ
-ยุคก่อนศตวรรษ 21   เน้นผู้สอนและหลักสูตรเป็นหลักในการสอน   ผู้เรียนไม่ค่อยเกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน     
-ยุคศตวรรษที่ 21   เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในการกำหนดการเรียนการสอน   ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลา   การเรียนเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต




                                                  *************************************
2.   ครูผู้สอนจะเตรียมตัวอย่างไรในอนาคตที่ท่านจะเป็นครูยุคต่อไปข้างหน้า   ให้สรุปตามแนวคิดของนักศึกษา ?
              ในฐานะที่จะเป็นครูผู้สอนในยุคที่ทันสมัยนั้น  บุคลาการครูทุกท่านนั้นต้องมีความพร้อมในหลายด้าน คือ 
-ต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่น Internet และต้องนำเทคโนโลยีเหล่ามาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม
-ผู้สอนนั้นต้องทำหน้าที่หาความรู้ใหม่ๆตลอดเวลาก้าวทันความเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวของโลก   สามารถนำความรู้ที่ได้มานั้นมาเผยแพร่ให้กับนักเรียนและชุมชนได้รับรู้   โดยผ่านสื่อการถ่ายทอดความรู้ที่สามารถเข้าถึงผู้รับสาร เช่น  วารสาร  CD  VDO  Web เป็นต้น   และที่สำคัญเนื้อหาที่จะนำเสนอนั้นต้องสามารถอ้างอิงได้และทันสมัยอยู่เสมอ
                 การสอนในยุคนี้การจัดกิจกรรมการเรียนนั้นจะต้องเน้นผู้เรียนเป็นหลัก   การจัดหลักสูตรการสอนนั้นต้องเปิดกว้างให้มากที่สุด   ครูนั้นต้องทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะในสิ่งที่นักเรียนต้องการจะเรียนรู้ การกำหนดการสอนต้องบูรณาการ ได้กับหลายสาขาวิชาและนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้   การสอนต้องสื่อการเรียนที่ทันสมัย สร้างสรรค์




วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมทดสอบกลางภาค


กิจกรรมทดสอบกลางภาคเรียน
บทความที่ ความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล วารสารทักษิณ
1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ          
            จากบทความความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น  การสั่งงานของพระองค์ท่านนั้นเปรียบเสมือนพระองค์ท่านเป็นดั่งครูของแผ่นดิน ครูของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยพระองค์ท่านนั้นจะยึดถือพระองค์เองเป็นแบบอย่างให้แก่ทุกคน ใช้กลวิธีการสั่งงานผ่านกระบวนการสอน สอนให้รู้จักการคิดวิเคราะห์ สังเกตรายละเอียดของเรื่องต่างๆและให้ยึดถือความทุกข์ของประชาชนเป็นหลัก  โดยเฉพาะบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานราชการนั้นต้องมีความทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อประชาชน   ดังตัวอย่างโครงการกว่าพันโครงการของพระองค์ท่าน  ที่นอกจากจะเป็นผุ้ริเริ่มคิดโครงการต่างเพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนแล้ว  พระองค์ทรงลงมือปฏิบัติโครงการต่างๆด้วยตัวพระองค์เองเพื่อเป็นแบบอย่าง  และเป็นการสอนให้ทุกคนได้ลงมือปฏิบัติจริงสามารถแก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องได้จริง    การสอนของพระองค์ท่านนั้นก็จะควบคู่ไปกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่สามรถนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกทั่งยังทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี และมีความสุขบนรากฐานชีวิตของบ้านเกิด  
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนนั้นท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนอย่างไร         
               ดิฉันจะใช้วิธีการสอนโดยให้นักเรียนได้ฝึกฝนจากประสบการณ์จริง ได้ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อที่จะได้ให้นักเรียนได้รู้จักเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถรับรู้ทั้งประโยชน์ และหากมีปัญหาก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง   และในสถานะที่เราเป็นครูเราคือจุดเริ่มต้น ดิฉันจะใช้วิธีการสอนโดยการลงมือกระทำไปด้วย    อีกทั่งยังจะเน้นแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด